หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เจ้าเสือ อายุ 1 ปี
ประวัติและความเป็นมาของ สุนัขบางแก้ว
สุนัขไทยพันธุ์เดียวในประเทศไทยที่มีขนยาวสองชั้นหางเป็นพวง มีขน ขาหน้าคล้ายขนขาแข้งสิงห์ แผงรอบคอคล้ายสิงโตมีความเฉลียว ฉลาด ไอคิวสูง ประวัติความเป็นมา ของ สุนัขไทยพันธุ์ บางแก้ว
จากข้อมูล ที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้วต.บางแก้ว บ้านชุมแสสงคราม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็น ป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมู่ป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาไน เหตุผล ที่สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด พื้นที่ในเขต ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าดงพงพีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย สัตว์ป่านานาชนิดรวม ทั้งสุนัขจิ้งจอก และหมาไนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่สุนัขจิ้กจอกและหมาไนตัวผู้จะมาแอบลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมีย ที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้วนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียวเพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ใจปราดเปรียว แข็งแรง เมื่อมีการผสมข้ามพันธุ์กันตามธรรมชาติหรือ เรียกง่ายๆว่าธรรมชาติเป็นผู้ผสม และคัดเลือกพันธุ์ในที่สุดก็ได้สุนัข ไทยพันธุ์บางแก้ว ซึ่งมีลักษณะดีเด่นปรากฎโฉมออกมาคือ มีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้นคล้ายอานม้า หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงห์โต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ หลวงพ่อมาก เมธาวี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว ที่วัดของท่านเลี้ยง สุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีว่า ใครที่เข้ามาในวัด หรือมีธุระปะปังผ่านไปผ่านมาที่วัดแต่ละครั้งจะต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกล ๆ เพื่อให้พระอาจารย์มาก เมธาวี
ท่านช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกมันไล่กัดเอากระจุย กระเจิงแน่นอน ด้วยกิติศักดิ์ในความดุของ สุนัขที่วัดบางแก้วนี้เองจึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้ เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ ๆ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้ขยายพันธุ์ไปมากที่สุดก็คือ ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไป หลายจังหวัดแล้ว เนื่องด้วยบริเวณวัดบางแก้วในสมัยนั้นมีลักษณะรอบ ๆ เป็นป่า มีสัตว์ป่าอาศัยค่อยข้างชุกชุม จนกระทั้งสุนัขตัว นั้นได้คลอดลูกออกมา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากสุนัขอื่นๆ ที่มีอยู่ในวัดทั่วไป คือมีขนยาวฟู คล้ายสุนัขต่างประเทศ มีลักษณะสวยงาม โดดเด่นน่าเลี้ยง และมีความดุ จากนั้นสุนัขแบบนี้ก็มีให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวัดบางแก้ว จนประชาชนที่ไปวัด นั้นเห็นถึงความสวยงาม ฉลาด หวงของ และดุ มีความซื่อสัตย์ และภักดีต่อผู้เป็นเจ้าของ จึงขอสุนัขจากท่านหลวงปู่มากมาเลี้ยง เพื่อใช้ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าแพ หรือแม้กระทั้งเฝ้าท้องไร่ ท้องนา เพราะความหวงของและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนาย
สุนัขชนิดนี้จึงแพร่ขยายออกไปทั่วหมู่บ้าน และด้วยเหตุปัจจัยที่หมู่บ้านบางแก้วนั้นมีภูมิประเทศเป็นเกาะในช่วงฤดูน้ำหลากโดยมีแม่น้ำล้อมรอบ และประจวบกับในช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงที่สุนัขนั้นเป็นสัดพอดี สุนัขนั้นไปสามารถออกไปผสมกับสุนัขในถิ่นอื่นได้ จึงเกิดการผสมพันธุ์กันเองภายในเครือญาติเดียวกันหลายต่อหลายช่วงอายุ จนเกิดเป็นสุนัขที่มีลักษณะที่มีลักษณะเฉพาะ มีลักษณะต่างๆชัดเจนแตกต่างจากสุนัข พื้นบ้านโดยทั่วไป

จากนั้นเมื่อมีผู้เข้าไปพบเห็น เกิดการชื่นชอบจึงนำออกมาเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองพิษณุโลก และเรียกสุนัขดังกล่าวว่า “สุนัขบางแก้ว” ตามถิ่นกำเนิดของสุนัขนั้น เมื่อเกิดความนิยมของคนเลี้ยงทั่วไปในเมืองพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นของผู้ที่เลี้ยงสุนัขบางแก้ว ผู้ที่ชื่นชอบ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อจะพัฒนาสุนัขบางแก้วให้มีมาตรฐาน จากนั้นราวปี พ.ศ. 2500 จึงมีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ของสุนัขบางแก้วขึ้นมาเป็นครั้งแรก และมีการคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาสุนัขบางแก้ว รวมถึงการให้ความรู้ในการเลี้ยงการให้ยากับผู้เลี้ยง จากหน่วยงานของรัฐ ทำให้สุนัขบางแก้วมีอัตราการรอดมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างของสุนัขบางแก้วที่มีความโดดเด่นต่อผู้ที่พบเห็น รวบถึงผู้ที่เลี้ยงไว้ ทำให้สุนัขบางแก้วกายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงสุนัขทั่วไป ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เฝ้าระวังภัยให้กับบ้านเรือนอย่างไว้ใจได้เป็นอย่างดี
สุนัขไทยบางแก้ว มีจุดกำเนิดอยู่ที่ วัดบางแก้ว บ้านบางแก้ว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ในช่วงสมัยหลวงปู่มาก เป็นเจ้าอาวาสรุ่นที่ 3 ของวัดบางแก้ว ท่านเป็นผู้มีความเมตตาต่อสัตย์ และเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นจำนวนมากมายหลายชนิด ทั้งสัตว์บ้านและสัตว์ป่า รวมทั้งสุนัขด้วย ซึ่งสุนัขที่ท่านเลี้ยงนั้นไม่มีการกล่าวกันมาว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์ใดอย่างชัดเจน แต่ตามเรื่องเล่าสืบต่อกันมานั้นท่านมีสุนัขสีดำขนยาวเพศเมียตัวหนึ่ง เมื่อเป็นสัดในฤดูผสมพันธุ์ได้เข้าไปในแนวป่ามีการสันนิฐานว่าไปผสมกับหมาป่า เนื่องด้วยบริเวณวัดบางแก้วในสมัยนั้นมีลักษณะรอบ ๆ เป็นป่า มีสัตว์ป่าอาศัยค่อยข้างชุกชุม จนกระทั้งสุนัขตัว นั้นได้คลอดลูกออกมา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากสุนัขอื่นๆ ที่มีอยู่ในวัดทั่วไป คือมีขนยาวฟู คล้ายสุนัขต่างประเทศ มีลักษณะสวยงาม โดดเด่นน่าเลี้ยง และมีความดุ จากนั้นสุนัขแบบนี้ก็มีให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวัดบางแก้ว จนประชาชนที่ไปวัด นั้นเห็นถึงความสวยงาม ฉลาด หวงของ และดุ มีความซื่อสัตย์ และภักดีต่อผู้เป็นเจ้าของ จึงขอสุนัขจากท่านหลวงปู่มากมาเลี้ยง เพื่อใช้ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าแพ หรือแม้กระทั้งเฝ้าท้องไร่ ท้องนา เพราะความหวงของและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนาย

สุนัขชนิดนี้จึงแพร่ขยายออกไปทั่วหมู่บ้าน และด้วยเหตุปัจจัยที่หมู่บ้านบางแก้วนั้นมีภูมิประเทศเป็นเกาะในช่วงฤดูน้ำหลากโดยมีแม่น้ำล้อมรอบ และประจวบกับในช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงที่สุนัขนั้นเป็นสัดพอดี สุนัขนั้นไปสามารถออกไปผสมกับสุนัขในถิ่นอื่นได้ จึงเกิดการผสมพันธุ์กันเองภายในเครือญาติเดียวกันหลายต่อหลายช่วงอายุ จนเกิดเป็นสุนัขที่มีลักษณะที่มีลักษณะเฉพาะ มีลักษณะต่างๆชัดเจนแตกต่างจากสุนัข พื้นบ้านโดยทั่วไป

จากนั้นเมื่อมีผู้เข้าไปพบเห็น เกิดการชื่นชอบจึงนำออกมาเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองพิษณุโลก และเรียกสุนัขดังกล่าวว่า “สุนัขบางแก้ว” ตามถิ่นกำเนิดของสุนัขนั้น เมื่อเกิดความนิยมของคนเลี้ยงทั่วไปในเมืองพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นของผู้ที่เลี้ยงสุนัขบางแก้ว ผู้ที่ชื่นชอบ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อจะพัฒนาสุนัขบางแก้วให้มีมาตรฐาน จากนั้นราวปี พ.ศ. 2500 จึงมีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ของสุนัขบางแก้วขึ้นมาเป็นครั้งแรก และมีการคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาสุนัขบางแก้ว รวมถึงการให้ความรู้ในการเลี้ยงการให้ยากับผู้เลี้ยง จากหน่วยงานของรัฐ ทำให้สุนัขบางแก้วมีอัตราการรอดมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างของสุนัขบางแก้วที่มีความโดดเด่นต่อผู้ที่พบเห็น รวบถึงผู้ที่เลี้ยงไว้ ทำให้สุนัขบางแก้วกายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงสุนัขทั่วไป ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เฝ้าระวังภัยให้กับบ้านเรือนอย่างไว้ใจได้เป็นอย่างดี
                                                                   
สุนัขบางแก้วนิยมนำมาเลี้ยงกันตั้งแต่ 45 วันขึ้นไป เริ่มแรกก็พบสัตว์แพทย์เกี่ยวกับการทำวัคซีนปีละ 1 ครั้ง อาจจะเป็นวัคซีนรวมหรือแยกก็แล้วแต่ ทำวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จากนั้นก็ถ่ายพยาธิ ซึ่งการทำวัคซีนต่อไปก็ทำเพียงปีละ 1ครั้งก็พอ เพราะสุนัขบางแก้วนั้นจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่ทนต่อโรคสูง
(พื้นฐานอาจมาจากสุนัขไทยที่คุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศ) การเลือกและดูแลเลี้ยงดูลูกสุนัขแรกเกิดถึงหย่านม การนำลูกสุนัขมาเลี้ยงนั้น อายุที่สมควรจะนำมาเลี้ยงนั้น ควรเป็นอายุประมาณ 6 ถึง 8 สัปดาห์
เพราะลูกสุนัขจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคที่สำคัญ ที่ทำให้ลูกสุนัขเสียชีวิตอยู่บ่อยๆ มาเรียบร้อยแล้ว คือ โรคลำไส้อักเสบจากไวรัส และโรคหัด ซึ่งถ้าลูกสุนัขได้รับเชื้อไวรัสเหล่านี้ และไม่มีภูมิคุ้มกันพอ และเมื่อแสดงอาการของโรคแล้วมากกว่า 90% ของลูกสุนัขจะตาย โดยเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกที่อายุ 6 สัปดาห และต่อจากนั้นคุณหมอจะแนะนำโปรแกรมที่ถูกต้องให้แก่เจ้าของเอง นอกจากนั้นลูกสุนัขที่มีอายุขนาด (6-8 สัปดาห์) นี้จะไม่โตหรือเล็กเกินไป จะยอมรับเจ้าของใหม่ได้ง่าย และเริ่มหย่านมได้แล้ว สรุปได้ว่า อายุสุนัขที่ควรนำมาเลี้ยงควรจะอยู่ระหว่าง 2-3 เดือน
การเลือกลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว
การเลือกลูกสุนัขก็มีหลักการง่ายๆ อยู่ว่า ให้ดูลูกสุนัขที่ร่าเริง ดวงตาแจ่มใส ควรจะลองบีบบริเวณจมูกเบาๆ ดูว่าน้ำมูกที่ออกมาใสหรือข้น โดยปกติเขาก็จะมีน้ำใสๆ อยู่แล้ว และจมูกเปียกชื้น ส่วนผิวหนังก็ให้ดูว่ามีโรคผิวหนังใดๆ หรือตุ่ม หรือจุดเลือดออกหรือไม่ ลูกสุนัขอายุเท่านี้จะต้องมีการฉีดวัคซีนมาแล้ว 1 ครั้ง ดังนั้นคุณจะต้องขอใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งควรจะอยู่คู่กับตัวลูกสุนัขและต้องมีลายเซ็นต์ของสัตว์แพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบการบำบัดโรคสัตว์อย่างถูกต้องรับรองอยู่ด้วย การให้อาหารนั้น ลูกสุนัขยังไม่หย่านมก็ยังคงต้องให้นมอยู่ และควรจะเป็นนมผงที่ผลิตสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ เพราะจะมีส่วนประกอบวิตามินแร่ธาตุที่จำเป็นในปริมาณและอัตราส่วนที่เหมาะสม ลูกสุนัขของคุณอาจจะท้องเสียเนื่องจากมีปัญหาในการย่อยน้ำนมที่คุณให้เขาได้ ทางแก้ก็คือ ให้งดน้ำนมชั่วคราว และให้น้ำเกลือแร่แทน หรือลองเปลี่ยนยี่ห้อ หรือชนิดของนมดู เช่น เปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลือง เป็นต้น งดน้ำนมแล้วให้น้ำเกลือแร่แทน นอกจากในรายที่เป็นรุนแรง เช่น ท้องเสียมากกว่า 1 วัน จึงจะต้องนำไปหาสัตว์แพทย์
สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัข
สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุนัขที่กำลังเจริญเติบโต ก็เช่นเดียวกับคน คือมันจะต้องการ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน ไขมัน แร่ธาตุ น้ำจะแตกต่างกันที่ปริมาณเท่านั้น หากต้องการจะทำอาหารให้สุนัขทานควรเป็นประเภท ข้าวเนื้อสัตว์ ผัก เป็นองค์ประกอบหลัก และปรับปรุงรสชาติให้น่าทาน เพราะสุนัขก็มีต่อมรับรส เช่นเดียวกัน หากอาหารที่คุณทำดีมีรสชาติถูกใจ มันก็จะ เจริญอาหาร ทานจนพุงกางไปเลย ควรเปลี่ยนอาหารสลับหมุนเวียนกันบ้าง ไม่ควรให้มันทานของซ้ำๆ กัน เพราะจะทำให้มันขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งตลอดเวลา ทำให้ เป็นปัญหาต่อสุขภาพในอนาคต อาหารประเภทไข่ ไม่ควรให้ทานไข่ดิบหรือไข่ลวกเพราะโปรตีนในไข่จะไม่ดูดซึม เข้าสู่ร่างกายสุนัข ควรทำให้สุกโดยการทอด หรือต้มจะเป็นประโยชน ์ต่อสุนัขของ คุณมากกว่าอาหารประเภทตับ หลายคนชอบให้สุนัขรับประทาน เพราะหาง่ายและ สุนัขก็ชอบเหมือนกัน แต่ไม่ควรให้มันทานทุกวัน การให้อาหารประเภทตับเช่นตับต้ม ตับย่าง แก่สุนัขทุกวันจะทำให้มีปัญหาเรื่องกระดูก เนื่องจากในตับไม่มีความสมดุล
ของแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบในร่างกาย จะทำให้สุนัขของคุณเป็น โรคกระดูกบาง กระดูกหักง่าย หาต้องการให้สุนัขทานตับจริง ๆ ก็ควรเพิ่มอาหารเสริมที่เป็นวิตามิน หรือแคลเซี่ยมก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ไปได้
หลักการเลือกอาหารสำเร็จรูปของสุนัข
หลักการเลือกอาหารสำเร็จรูปของสุนัข
1. ต้องพิจารณาดูว่าสุนัขของท่านอยู่ในวัยใด เป็นเด็ก เป็นหนุ่ม หรืออยู่ใน วัยชราแล้ว ควรจัดผสมสูตรของอาหารให้เหมาะสมกับวัยของสุนัข การผสม สัดส่วน ของสารอาหารโดยผิดสูตรจะมีผลอย่างยิ่งต่อสุนัขที่ยังอยู่ในวัยเด็กอยู่
2. อาหารกระป๋อง หรืออาหารเม็ด ทั้ง 2 อย่างก็มีประโยชน์ต่อสุนัข ของคุณ เท่ากัน ขี้นอยู่กับว่าสุนัขจะชอบทานประเภทไหน ถ้าเป็นแบบกระป๋องก็ทานง่าย เพราะมีกลิ่น มีน้ำ และรสชาติที่อร่อยกว่าแบบเม็ด เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
3. ตรวจสอบอาหารก่อนซื้อ ต้องดูว่าภาชนะที่บรรจุอาหารสุนัข จะไม่ขาดรั่ว มีแมลงตัวมอด หรือหนอนเจาะไซถุง ถ้าเป็นกระป๋องก็ต้องไม่บุบ ไม่รั่ว ไม่บวม ไม่ขึ้นสนิม ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นบูดเน่าเทคนิคการให้อาหารสุนัข เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเลี้ยงสุนัขที่เจ้าของจะต้องเรียนรู้ และเข้าใจในพฤติกรรมของสุนัข มิฉะนั้นสุนัขของคุณก็จะเติบโตอย่างไม่มีคุณภาพ
ข้อดีของหมาบางแก้ว


1. ความดุ ขึ้นชื่อมาก ขนาดขึ้นไปนั่งบนเรือนแล้วยังตามขึ้นไปกัดหรือขนาดเดินผ่านเลยบ้านไปแล้วยังวิ่งตามไปกัดอีก

2. มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างยอดเยี่ยม รักและหวงเจ้าของมากจะเฝ้าอารักขาเจ้าของไม่ยอมห่าง

3. ขนาดรูปร่างพอเหมาะสวยงาม ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป (เล็กกว่าหมาไทยเล็กน้อย)

4. มีความสามารถในการดมกลิ่นดีมาก เหมาะที่จะใช้เข้าป่าล่าสัตว์

5. จำเสียงได้แม่นยำ จำเสียงพูด เสียงเดินของเจ้าของได้

6. มีความกล้าหาญ กล้าต่อสู้กับสุนัขที่โตกว่า

7. กินอาหารง่าย ไม่เลือกอาหาร

8. มีความทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี หน้าร้อน ไม่เหนื่อยง่าย หน้าหนาวขนยาวให้ความอบอุ่นสบาย

9. มีประสาทตื่นตัวอยู่เสมอ แม้แต่ขณะที่นอนหลับ